.
.
.
หอบเย็นหอบยิ้ม
เยือนถิ่นเยี่ยมฐาน
หอบธรรมหอบทาน
ผ่านจิตผ่านใจ
ขอพระขอพร
ขอวอนขอไหว้
สุขเถิดสุขไทย
สว่างไสวสวัสดี
.
.
.
๑ ธันวา ๕๑
ปล. ขออนุญาติ ประเดี๋ยวจะไม่ทันการณ์คอนเสิร์ตแด่คนช่างฝัน จรัล มโนเพ็ชร
๓๐ ปี โฟล์คซองคำเมือง
"...เมื่อดอกไม้แย้มบานให้คนหาญสู้ไม่หวั่น
คือรางวัลแด่ความฝันอันยิ่งใหญ่...ให้เธอ..."
รวมหัวใจสร้างสรรค์ของศิลปินร่วมสมัย
กับบทเพลงแห่งแรงบันดาลใจจาก จรัล มโนเพ็ชร
สุนทรี เวชานนท์, ลานนา คัมมินส์, สุรชัย จันทิมาธร,มงคล อุทก,
ชาตรี คงสุวรรณ,พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์, ศุ บุญเลี้ยง, ป๊อด โมเดิร์นด๊อก,
ฟอร์ด สบชัย, บี๋ คณาคำ, อุเทน พรหมมินทร์, อะแค็ปเปล่า ๗,
ธีร์ ไชยเดช, พยัต ภูวิชัย, พี่น้องมโนเพ็ชร, ไตรศุลี มโนเพ็ชร,
กวีรับเชิญ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
สถานที่แสดง หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) ที่ตั้งสถานที่ ถนนพระจันทร์ พระนครร รอบการแสดง
วันแสดง เวลาแสดง วันเสาร์ที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๑ ๑๘.๐๐ น.
Last weekend, my family and I went to Suphanburi to take my mom back home. So, that was a fortunate time for a trip! I would like to tell you some specials.
We went to 'Sam Chuk', the Thai market that still conserved the old atmosphere such as the classical Thai dessert, classical toys and daily utensils. We visited Khun Jumnongjenarak Museum that has a lot of ancient things and they have been conserved them very well. The special thing is all of these have been, and are being managed by the local people!!
So, if you have a chance to Suphanburi, don't forget to go to Sam Chuk market, "Living market Living museum"
คอนเสิร์ต “ เพลงแบบประภาส ”
รายชื่อศิลปิน อาทิ : เบน ชลาทิศ, โจอี้บอย, สามโทน, เจนนิเฟอร์ คิ้ม, ปาน ธนพร,
บี เครสเซนโด้, เฉลียง ฯลฯ
รายชื่อเพลง อาทิ : เพราะอะไร, นิทานหิ่งห้อย, ฟั่นเฟือน, ลมหายใจของกันและกัน, เสือ,ไม้ขีดไฟกับดอกทานตะวัน, ต้นชบากับคนตาบอด, อิฐก้อนหนึ่ง, เจ้าภาพจงเจริญ, คนดนตรี, นิทานหิ่งห้อย, พี่ชายที่แสนดี, ขบวนการโป๊งโป๊งชึ่ง ฯลฯ
จัดแสดง : วันศุกร์ที่ ๔ - วันอาทิตย์ที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๑
เวลา ๑๙:๐๐ น.
สถานที่ : ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
จำหน่ายบัตร : วันศุกร์ที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๑ (๑๐:๐๐ น.) ถึง วันเสาร์ที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๑
เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วเดินทางไปเพชรบุรี เปลี่ยนหอให้น้อง
ระหว่างทางเลยแวะเที่ยวงานเทศกาลว่าวฯ ที่ชะอำ
อันที่จริงจะไปเที่ยวงานว่าวนี่แหละ ย้ายหอถือเป็นข้างทาง
วันนี้ที่ประจวบเลือกตั้งสท.พอดี ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ก็มีวี่แววว่าปัญหาเดิมๆ จะไม่เว้นแม้การเมืองท้องถิ่น
พอเลือกเสร็จก็ออกเดินทางมาพร้อมกับสายฝน
แล้วว่าวที่ไหนจะไปขึ้นให้เอ็งดูฟะ
เมฆครึ้มมาก พานาฯ ป๊อกแป๊กถ่ายแล้วออกมาดำๆ มัวๆ แทบทุกรูป
โชคดี พอไปถึงฝนก็จะหยุดตกพอดี มีเมฆครึ้มๆ นิดหน่อย
แต่ที่โผล่มาคือพระอาทิตย์ยามสี่โมงที่แยงลูกกะตามากๆ
เทศกาลนี้จัดประจำทุกปี ส่วนมากจะจัดแถวหัวหิน เพชรบุรี แต่บางปีก็ไปจัดที่สนามหลวงเหมือนกัน
มีว่าวมาโชว์ทั้งหมด ๑๕ ชาติ แต่ถ่ายมาได้ไม่กี่ชาติแถมเบลออีกตะหาก
ว่าวฟีนิกซ์ที่เห็นเป็นว่าวจากจีน เต็นท์ข้างล่างเป็นเต็นท์ที่นักชักว่าวจากประเทศต่างๆ นั่งรอคิวโชว์ว่าวกัน
พอมาถึงเขากำลังจะเอาว่าวงูตัวเขียวๆ นี่ขึ้นพอดี
ซึ่งอนุมานได้ว่าว่าเป็นว่าวแห่งความร่วมมือของนานาประเทศอะไรงี้
ช่วงหัวขึ้นสวยงามมาก ตัวยาวสัก ๓-๔ สนามฟุตบอลได้
คนดูก็ช่วยกันลุ้น ปรากฏว่า...
ปรากฏว่าอีว่าวงูนั่นน่ะ หางไปพันกับต้นสะแกข้างสนาม ดับอนาถกลางอากาศ ซึ่งพออนุมานได้ว่า...
เราเลยเบนเข็มมาดูว่าวอื่นกันมั่ง
งานนี้เห็นว่าเป็นงานที่มีว่าวหมึกขึ้นไปลอยละล่องมากที่สุด มองไปทางไหนก็เห็น
ว่าวปลาก็มีให้เห็นสองตัว ว่าวประเทศอื่นที่ปล่อยให้โชว์เฉยๆ ก็มี
แต่สุดกำลังที่ซูม เลยไม่ได้ถ่ายมาให้ดูกัน
นี่ซูมเต็มที่ภาพแตกกระจุยเลย
ดูผู้ใหญ่แล้วเรามาดูเด็กชักว่าวกันบ้าง
งานนี้เด็กเยอะมากเลยค่ะ เหมาะเป็นวันครอบครัวโดยแท้
เห็นเด็กตะแง้วๆ จะเอาว่าว หันมาอีกทีพ่อแม่ก็ไปสอนลูกเล่นมันช่างสุขใจดีแท้
ในที่สุดฟ้าก็เปิด ว่าวที่เห็นเป็นว่าวดุ๊ยดุ่ยจากอุบลฯ
ลุงที่ปล่อยว่าวชื่อลุงเสือ เห็นโฆษกตะโกนแซวว่าลงทุนหอบว่าวมาจากอุบลเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
ว่าวดุ๊ยดุ่ยนี่ขึ้นเร็วมากค่ะ กดชัตเตอร์รูปที่สามก็ขึ้นไปซะลิบแล้ว
ข้างบนเป็นว่าวควายของสตูลค่ะ สังเกตตรงตูดควายจะมีอะไรคล้ายๆ คันธนูติดอยู่
พอขึ้นไปโต้ลมบนท้องฟ้าจะมีเสียงแว้น~ แว๊น~ อยู่ตลอดเวลา
ข้างล่างจะเป็นวิน แคชเชอร์รูปขนนก สัญลักษณ์ของประเทศต่างๆ
สังเกตให้ดีจะมีสาธารณรัฐเอลาโยมาร่วมด้วย
ท้ายสุดก็มาเดินดูแผงข่ายของค่ะ
แน่นอนพระเอกต้องเป็นว่าวน้อยว่าวใหญ่สีแปร๊ดแสบตา
ได้มา 2 ตัว ต่อจาก 400 เหลือ 330 แล้วยังขอแถมโน่นนี่อีกจนคนขายทำหน้าแบบ
แต่ระหว่างเดินๆ ว่าวตปท.ก็ยังขึ้นอยู่เรื่อยๆ ที่เห็นเป็นว่าวช้างจากไต้หวัน (ไต้หวันมีช้างด้วยเหรอ)
กับว่าวจากญี่ปุ่นที่ขึ้นมาพร้อมกับเสียงกลองออกศึกดังตุ้มๆๆๆ
นอกจากว่าวที่เป็นพระเอกแล้ว ของอื่นๆ ก็มีมาขายเหมือนกันนะ แต่เป็นพระรองๆ กันไป
แม่ตูติดใจไอ้ตะเกียงนี่มากเลยเนี่ย เกือบจะสอยมาอยู่แล้ว
รูปสุดท้ายนี่จะมาบอกว่าชอบป้ายบอกส้วมเขามากเลยค่ะ ชัดเจน เข้าใจ ใหญ่เป้ง
มีอีกอันที่ส้วมไม่ได้อยู่บนฟ้านะ แต่ชอบอันนี้มากกว่า
ข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ
งานชักว่าวฯ นี่ชื่อเต็มๆ ว่าเทศกาลว่าวไทยและว่าวนานาชาติ ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่สิบ
ปกติจะมีประมาณต้นเดือนมีนา งานนี้เอามาโพสต์ช้า งานจบไปตั้งกะวันที่ 12 ขอโทษจริงๆ
อันนี้เป็นเว็บงานว่าวของปีที่แล้วค่ะ มีรูปว่าวให้ดูหลายรูป
อีอันนี้ไปตอนสี่โมงถ่ายย้อนแสงออกมาดำปึ้ดหมด เลยไม่ได้เอามาให้ดูกัน มีแต่ว่าวธรรมดาๆ
อันนี้ว่าวดับเทพที่โปรเค้าถ่ายกัน สวยยังกะจับวาง
เพลง : ดอกแก้วกัลยา
ศิลปิน : อธิศรี สงเคราะห์
คำร้อง/ทำนอง : ประภาส ชลศรานนท์
แก้วกัลยา ทรงคุณค่าเหนือจิตใจ
คือดอกไม้แห่งความรัก และการแบ่งปัน
องค์พระพี่นาง พระราชทานเป็นมิ่งขวัญ
ให้ผองผู้พิการ ไทยทั้งปวง
* ดอกไม้ฟ้า แห่งกรุณา ประทานลงมาแสนชื่นใจ
ดั่งดอกไม้จากเทวาลัยจากแดนสรวง
ดอกไม้ฟ้า แก้วกัลยา แทนใจทั้งดวง
แทนความรัก ความเป็นห่วง ความชื่นชม
ขาดแขนขา หรือดวงตามองไม่เห็น
ใช่จะลำเค็ญ ใช่จะทุกข์หรือตรอมตรม
ยังมีหัวใจ สู้ต่อไปอย่างสุขสม
คือชีวิตที่ชื่นชมโลกงดงาม
“ดอกแก้วกัลยา เป็นดอกไม้ประดิษฐ์ที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม เพื่อเป็นดอกไม้แห่งสัญลักษณ์ของคนพิการทั่วประเทศ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่คนพิการ
ซึ่งดอกแก้วกัลยาประดิษฐ์ขึ้นเพื่อส่งเสริมอาชีพและพัฒนาคนพิการในศูนย์ส่งเสริมอาชีพ ของสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
ที่มาของดอกแก้วกัลยานั้นเป็นดอกไม้ในจินตนาการ มาจากดอกไม้ ๒ ชนิดด้วยกันคือ
“ดอกแก้ว” เป็นดอกไม้สีขาว มีกลิ่นหอม และ “ดอกแก้วเจ้าจอม” ที่มีกลีบดอกสีฟ้าคราม สวยสง่าแต่อ่อนหวาน ซึ่งดอกแก้วทั้ง ๒ ชนิดนี้เป็นดอกไม้ยืนต้นที่แข็งแรง ใบสวยงาม ออกดอกเป็นพวง ให้ความหมายเปรียบเทียบประดุจคนเราทุกคนมีน้ำใจเป็นหนึ่งเดียว
ความหมายโดยรวมของดอกแก้วกัลยานั้นคือ ดอกไม้จากนางแก้ว ที่มีน้ำพระหฤทัยสดใส ให้แสงสว่างอบอุ่นกับมวลหมู่คนพิการในแผ่นดินไทย ดั่งน้ำพระหฤทัยจากองค์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์์”
คุณสุริยัน อริยวงศ์โสภณ ประธานกรรมการโครงการดอกแก้วกัลยา
๒ พฤษภา ๒๕๔๙ อาจิก ประภาส ชลศรานนท์ ประพันธ์เพลงดอกแก้วกัลยา ทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เนื่องในวโรกาสคล้ายวันประสูติ เมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๔๙ ... เผยแพร่ครั้งแรกในรายการคุณพระช่วย ตอนพิเศษ ขับร้องโดยคุณอธิศรี สงเคราะห์ ผู้พิการทางสายตา เพื่อตอบแทนพระกรุณาธิคุณของล้นเกล้าฯ ที่มีต่อปวงชนชาวไทย และผองผู้พิการทั้งปวง