วันพุธ, มกราคม 16

๐๑๒ | สมเด็จแก้วกัลยาแห่งสยาม

เพลง : ดอกแก้วกัลยา
ศิลปิน :
อธิศรี สงเคราะห์
คำ
ร้อง/ทำนอง : ประภาส ชลศรานนท์

แก้วกัลยา ทรงคุณค่าเหนือจิตใจ
คือดอกไม้แห่งความรัก และการแบ่งปัน
องค์พระพี่นาง พระราชทานเป็นมิ่งขวัญ
ให้ผองผู้พิการ ไทยทั้งปวง

* ดอกไม้ฟ้า แห่งกรุณา ประทานลงมาแสนชื่นใจ
ดั่งดอกไม้จากเทวาลัยจากแดนสรวง
ดอกไม้ฟ้า แก้วกัลยา แทนใจทั้งดวง
แทนความรัก ความเป็นห่วง ความชื่นชม

ขาดแขนขา หรือดวงตามองไม่เห็น
ใช่จะลำเค็ญ ใช่จะทุกข์หรือตรอมตรม
ยังมีหัวใจ สู้ต่อไปอย่างสุขสม
คือชีวิตที่ชื่นชมโลกงดงาม

( ซ้ำ * , * )



ดอกแก้วกัลยา เป็นดอกไม้ประดิษฐ์ที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม เพื่อเป็นดอกไม้แห่งสัญลักษณ์ของคนพิการทั่วประเทศ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่คนพิการ
ซึ่งดอกแก้วกัลยาประดิษฐ์ขึ้นเพื่อส่งเสริมอาชีพและพัฒนาคนพิการในศูนย์ส่งเสริมอาชีพ ของสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์


ที่มาของดอกแก้วกัลยานั้นเป็นดอกไม้ในจินตนาการ มาจากดอกไม้ ๒ ชนิดด้วยกันคือ
“ดอกแก้ว” เป็นดอกไม้สีขาว มีกลิ่นหอม และ “ดอกแก้วเจ้าจอม” ที่มีกลีบดอกสีฟ้าคราม สวยสง่าแต่อ่อนหวาน ซึ่งดอกแก้วทั้ง ๒ ชนิดนี้เป็นดอกไม้ยืนต้นที่แข็งแรง ใบสวยงาม ออกดอกเป็นพวง ให้ความหมายเปรียบเทียบประดุจคนเราทุกคนมีน้ำใจเป็นหนึ่งเดียว


ความหมายโดยรวมของดอกแก้วกัลยานั้นคือ ดอกไม้จากนางแก้ว ที่มีน้ำพระหฤทัยสดใส ให้แสงสว่างอบอุ่นกับมวลหมู่คนพิการในแผ่นดินไทย ดั่งน้ำพระหฤทัยจากองค์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

คุณสุริยัน อริยวงศ์โสภณ ประธานกรรมการโครงการดอกแก้วกัลยา


๒ พฤษภา ๒๕๔๙ อาจิก ประภาส ชลศรานนท์ ประพันธ์เพลงดอกแก้วกัลยา ทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เนื่องในวโรกาสคล้ายวันประสูติ เมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๔๙ ... เผยแพร่ครั้งแรกในรายการคุณพระช่วย ตอนพิเศษ ขับร้องโดยคุณอธิศรี สงเคราะห์ ผู้พิการทางสายตา เพื่อตอบแทนพระกรุณาธิคุณของล้นเกล้าฯ ที่มีต่อปวงชนชาวไทย และผองผู้พิการทั้งปวง


ความรู้สึกแรกที่ได้ฟัง ขนลุกค่ะ เป็นเพลงที่สวยงาม งามในความรู้สึก งามในคำร้อง งามในท่วงทำนอง งามในน้ำเสียง คุณอธิศรีถ่ายทอดเพลงนี้มาได้อย่างไม่มีที่ติ เป็นสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ผู้พิการก็มีความสามารถไม่แพ้คนปกติเช่นกัน
..บอดก็เพียง สายตาเท่านั้น แต่จิตใจก็ยังผูกพันความงาม..

ข้าพเจ้าต้องขอยอมรับว่า เป็นการยากมากที่จะใช้เพียงถ้อยความเขียนบรรยายความรู้สึกที่มีต่อพระองค์ออกมาให้เหมือนกับความรู้สึกในอก
... ๒๕๕๐ เป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๘๐ พรรษาแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แทบทุกตารางนิ้วบนผืนแผ่นดินไทยเอ่อล้นไปด้วยความปลื้มปิติ และความจงรักภักดี แต่ใครจะคาดคิดเล่า ว่าเมื่อปีมหามงคลผ่านพ้นไป โศกอันยิ่งใหญ่จะมาเยือนปวงชน


สมเด็จพระพี่นางฯ... พระเชษฐภคินี พี่สาวที่แสนดีของพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองพระองค์ พระบรมฉายาลัษณ์ของราชสกุลมหิดลมากมายที่ประจักษ์แก่สายตาของข้าพเจ้า ยังความซาบซึ้ง และขอบังอาจเข้าใจในความรู้สึกของพี่สาว ที่มีต่อน้องชาย ของลูกสาวคนโตที่มีต่อครอบครัว พระพี่นางฯ ผู้ทรงเป็นเบื้องหลังความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของแผ่นดินไทย


สมเด็จพระพี่นางฯ... ครูของนักศึกษามากมาย หมอหลวงของชาวบ้าน นักประพันธ์ผู้ยิ่งใหญ่ นันบินผู้ทรงปรีชา องค์อุปถัมภ์ของผู้ยากไร้ และผู้พิการ รุ้งงามแห่งแผ่นดินสยาม
ณ วันนี้ แม้พระองค์จะเสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว แต่น้ำพระทัยอันเปี่มล้นของพระองค์จะสถิตอยู่ในใจของข้าพระองค์ตลอดไป

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

--------------------------------------------------------------------------





ขอขอบคุณ

วันอังคาร, มกราคม 8

๐๑๑ | หลักไทย



หลังจากหลังขดหลังแข็งกันมาเป็นหลายเดือน ในที่สุดเกมหลักไทย หรือ 'ตามรอยหลักไทยในสารานุกรมของพ่อหลวง' (ยาวฉิบ - -") ตามชื่อโครงงานก็เสร็จเรียบร้อย ส่งเรียบร้อย พรีเซ้นท์เรียบร้อย พร้อมเผยแพร่ในเร็ววันนี้ (รอไปเถอะ)

หลักไทย ตัวนี้เขียนด้วยเดลไฟ ๗ (Borland Delphi 7) เขียนกับโอม พีระพัฒน์ กับนิสา
หามรุ่งหามค่ำกันสุดๆ กว่าจะเสร็จ แต่ก็ยังมีสิ่งที่ต้องแก้ไขอีกมากมาย ท่านใดที่กรุณาเสนอความคิดเห็นเป็นแนวพัฒนาให้เกมนี้จักเป็นพระคุณอย่างสูงลิ่ว